Callcenter: 088-004-0005

Line ID: @starclinic

Open Daily 11:00 - 21:00

เว็บไซต์นี้สำหรับสมาชิกสตาร์คลินิกเท่านั้น

เส้นเลือดขอดความผิดปกติของหลอดเลือดดำซึ่งเป็นส่วนของลิ้น ที่ทำหน้าที่เปิดปิดส่งเลือดจากขาขึ้นไปสู่หลอดเลือดดำใหญ่

  • VaricoseVeins

    โรคเส้นเลือดขอด (Varicose Veins)
    เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดดำซึ่งเป็นส่วนของลิ้น
    ที่ทำหน้าที่เปิดปิดส่งเลือดจากขาขึ้นไปสู่หลอดเลือดดำใหญ่
    ความผิดปกตินี้เป็นตัวการที่ทำให้เลือด ไม่สามารถลำเลียง
    เข้าสู่หัวใจได้ ทั้งหมดเกิดการย้อนกลับมาค้างอยู่ใน
    หลอดเลือด ทำให้มีลักษณะคดเคี้ยวจนผิดปกติ




    เส้นเลือดขอด ไม่ใช่แค่เส้นฝอย
    เส้นเลือดขอด ถึงแม้ว่าไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ส่งผลกระทบ
    ต่อชีวิตประจำวันเพราะบางคนอาจปวดบริเวณที่ขอด
    จนนั่งไม่ได้ ยืนนานไม่ได้เลยทีเดียว ซึ่งก็มีหลายคน
    อาจคิดว่าเส้นเลือดขอดเป็นแค่เส้นฝอยเล็ก ๆ
    แต่ความจริงแล้วมี 2 ระดับ ดังนี้

    ระดับ 1 : เส้นเลือดขอดแบบฝอย แตกเป็นเส้นเล็ก ๆ
    ลักษณะคล้ายแพใยแมงมุม มีขนาดเล็กสีม่วงหรือแดง
    บางคนแทบไม่มีอาการเจ็บปวด หรือเมื่อยล้าจุดที่เป็น

    ระดับ 2 : เส้นเลือดขอดตัวหนอน เส้นเลือดโป่งพอง
    ขนาดใหญ่ เกิดจากผนังเส้นเลือดบาง
    ทำให้เส้นเลือด
    พองและขดเป็นหยักอาจมีสีเขียวผสมม่วง เส้นเลือด
    จะโป่งนูนออกมาเป็นขดๆ ชัดเจนพร้อมมีอาการเมื่อยล้า
    เจ็บปวดบริเวณเส้นเลือดขอด ซึ่งถือว่าอยู่ในขั้นที่ต้องรักษา
    และอาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นตามมาได้

    เส้นเลือดขอด ปัญหาใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม
    เส้นเลือดขอด หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเพียงปัญหา
    เรื่องความไม่สวยงามที่เกิดขึ้นกับร่างกายและละเลยที่จะรักษา
    แต่จริงๆแล้วหากปล่อยไว้ อาจมีโอกาสเกิดการอักเสบรุนแรง
    และนำไปสู่การเกิดแผลได้

    สาเหตุของการเกิดเส้นเลือดขอด
    เกิดจากผนังหลอดเลือดและลิ้นควบคุมการไหลของเลือด
    มีความอ่อนแอซึ่งโดยปกติภายในหลอดเลือดดำจะมีลิ้นเล็กๆ
    คอยเปิดให้เลือดไหลผ่าน และปิดป้องกันไม่ให้เลือดไหลย้อน
    กลับไปสู่ส่วนล่างของร่างกาย แต่ถ้าผนังหลอดเลือดขยายตัว
    ออกจนสูญเสียความยืดหยุ่น จะทำให้ลิ้นที่คอยเปิดปิด
    นี้อ่อนแอลงส่งผลให้มีเลือดรั่วออกมาและไหลย้อนกลับไป
    ที่ส่วนล่างของร่างกายโดยเฉพาะการยืนหรือนั่งเป็นเวลานาน
    จะส่งผลให้เลือดจากส่วนล่างของร่างกายไหลย้อนกลับไป
    ที่หัวใจได้ยากขึ้นและทำให้เลือดสะสมในหลอดเลือด
    และเกิดอาการบวมพองตามมา

    ซึ่งอาจมีปัจจัยเสี่ยงของการเกิดดังต่อไปนี้


    เพศหญิง เส้นเลือดขอดมีโอกาสเกิดขึ้นในเพศหญิง
    มากกว่าเพศชายเนื่องจากฮอร์โมนเพศหญิงจะไปทำให้
    ผนังหลอดเลือดคลายตัวลงและส่งผลให้มีโอกาสเกิดการรั่ว
    ของลิ้นหลอดเลือด

    พันธุกรรม ผู้ที่มีบุคคลในครอบครัวเป็นเส้นเลือดขอดจะยิ่งมี
    โอกาสเกิดโรคนี้ได้มากขึ้น
    อายุ อายุเพิ่มมากขึ้นหลอดเลือด
    จะเริ่มหลวมและหย่อนตัวลง เป็นเหตุให้ลิ้นหลอดเลือดทำงานได้ไม่ดี

    น้ำหนักตัวมาก จะทำให้เกิดแรงดันบนหลอดเลือด
    ทำให้หลอดเลือดต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อส่งเลือด
    ไปเลี้ยงหัวใจส่งผลให้เกิดแรงดันที่ลิ้นหลอดเลือดสูงขึ้น
    และเสี่ยงต่อการรั่วของเลือดยิ่งขึ้น

    การยืนเป็นเวลานาน จะยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดขอด
    เพราะเลือดจะไหลได้ยากขึ้น

    หญิงตั้งครรภ์ ในระหว่างการตั้งครรภ์ปริมาณของเลือด
    ในร่างกายจะเพิ่มสูงขึ้นและนำไปสู่การตึงของหลอดเลือด
    นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน
    ในหญิงตั้งครรภ์ที่สูงขึ้นยังสามารถทำให้ผนังกล้ามเนื้อ
    ของหลอดเลือด
    คลายตัวจนลิ้นเปิดปิดเลือดทำงานบกพร่อง
    ได้เช่นกัน



    6 ระยะเส้นเลือดขอดรักษาถูกวิธีลดโอกาสเสี่ยงลุกลาม
          ความรุนแรงของเส้นเลือดขอด มีความแตกต่างกัน
    ในแต่ละระยะซึ่งหากได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม
    ตั้งแต่เนิ่น ๆจะช่วยลดโอกาสในการลุกลามของแผล
    เส้นเลือดขอดได้

          เส้นเลือดขอด หรือชื่อในทางการแพทย์คือ
    โรคหลอดเลือดดำชั้นตื้นบกพร่องเรื้อรัง หมายถึง
    การที่เส้นเลือดมีการปูดขยายคล้ายตัวหนอน
    มากกว่า 3 มิลลิเมตร สาเหตุเกิดจากความเสื่อม
    ของหลอดเลือดดำ ทำให้เกิดแรงดันภายในหลอดเลือด
    เลือดจึงไหลเวียนกลับไปเลี้ยงที่หัวใจได้ไม่ดีเท่าที่ควร
    จนเกิดอาการปวดและบวมบริเวณขาในที่สุด

    กรรมพันธุ์ เพศ อาชีพ การใช้งาน
    และโครงสร้างหลอดเลือดล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยง
    ที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอดได้ซึ่งอาการที่พบได้ทั่วไปคือ
    อาการเจ็บหรือรู้สึกหนักขา,เป็นตะคริวช่วงกลางคืน,
    บวม ตึง แสบร้อน, รู้สึกเจ็บมากขึ้นเมื่อนั่งหรือยืน
    เป็นเวลานาน, คันรอบ ๆ เส้นเลือดเส้นใดเส้นหนึ่ง
    หรือหลายเส้น, อาจมีเลือดออกจากเส้นเลือดที่บิดนูน,
    อาการปวด
    เส้นเลือดขอด ในเส้นเลือดบริเวณที่ผิวหนัง
    เปลี่ยนเป็นสีแดง, เส้นเลือดแข็งหรือเปลี่ยนสี
    มีอาการอักเสบของผิวหนัง หรือบางรายอาจเกิดอาการ
    อักเสบรุนแรงจนเกิดแผลได้


    ความรุนแรงของอาการเส้นเลือดขอด
    จะมีความแตกต่างกันในแต่ละระยะซึ่งแบ่งเป็น 6 ระยะได้แก่

    ระยะที่ 1 เส้นเลือดมีลักษณะคล้ายใยแมงมุมมักมีขนาด
    น้อยกว่า 3 มิลลิเมตร
    ระยะที่ 2 เส้นเลือดเริ่มปูดเป็นตัวหนอนขนาดใหญ่มากกว่า
    3 มิลลิเมตรและมีอาการปวดเมื่อใช้งานเป็นระยะเวลานาน
    เช่น นั่ง เดิน หรือ ยืน
    ระยะที่ 3 เริ่มมีอาการขาบวม และปวดมากขึ้นถึงแม้จะใช้งาน
    ในระยะเวลาสั้น ๆ
    ระยะที่ 4 สีผิวที่ขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำเข้มขึ้น
    ซึ่งเป็นภาวะอักเสบของผิวหนัง
    ระยะที่ แผลหายจากการรักษาแต่ยังมีลักษณะอื่นๆ ร่วม
    เช่น ผิวหนังที่เปลี่ยนสีเป็นสีดำ
    ระยะที่ เกิดแผลที่เป็นลักษณะเฉพาะของแผลบริเวณ
    หลอดเลือดดำ เช่น ขอบแผลแดง

    การรักษาแบบไม่ผ่าตัด คือการให้ยาลดการอักเสบ
    ของหลอดเลือดดำหรือการใส่ถุงน่องเส้นเลือดขอด
    เพื่อให้เลือดภายในหลอดเลือดดำไหลกลับคืนสู่หัวใจ
    ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ 2 วิธีนี้จะช่วยบรรเทา
    อาการเท่านั้น ไม่สามารถรักษาให้หายได้

    ส่วนการรักษาแบบฉีดและ Laser 
    เหมาะสำหรับคนไข้ที่เริ่มมีอาการ ตั้งแต่ระยะ 2 ขึ้นไป
    โดยในปัจจุบันมีการฉีดและ Laser รักษาแบบแผลเล็ก
    เส้นเลือดขอดได้ผลดีเทียบเท่ากับการผ่าตัดแบบดั้งเดิม
    สามารถทำได้ทั้งแบบใช้ความร้อนทำลายหลอดเลือด
    คือการทำ Laser หรือ ใช้คลื่นวิทยุ และแบบไม่ใช้ความร้อน
    คือการฉีดสารเคมี เพื่อเข้าไปทำลายผนังหลอดเลือดดำจน
    ไม่มีเลือดไหลผ่านซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ
    และความปลอดภัยสูงมากกว่าการผ่าตัดแบบเดิม
    ที่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นหลังทำที่กำลังได้รับความนิยม
    ทำให้มีแผลขนาดเล็กประมาณ 2 – 3 มม. เจ็บน้อย
    ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลและเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่า

    การรักษาแผลเส้นเลือดขอดถ้ารักษาไม่ถูกวิธี
    เช่น เจอแผลแล้วทำแค่แผล จะยิ่งทำให้เกิดการลุกลาม
    แผลอาจมีน้ำเหลืองออกมามากขึ้นโดยวิธีที่ถูกต้อง
    คือการรักษาแรงดันในหลอดเลือดดำเพราะถ้าไม่ลดแรงดัน
    แผลก็จะไม่หายเพราะฉะนั้นหากพบว่ามีปัญหา

    เรื่องเส้นเลือดขอดควรเข้ามาปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง
    เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องและได้รับการรักษาที่เหมาะสม

     

     

     

    ***ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล

            ***สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือโปรโมชั่นดีๆ
              สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยนะคะ

     

     

                               

     

     

           ทีมแพทย์สตาร์คลินิก มีประสบการณ์ด้านผิวพรรณ
                   และศัลยกรรมความงามมากกว่า 10 ปี
     

            เปิดบริการทุกวัน เวลาทำการ 11.00 - 21.00 น.
     

         ปรึกษาหรือสอบถามโปรโมชั่น โทร. 088-004-0005

    อ่าน 2556 ครั้ง