Callcenter: 088-004-0005

Line ID: @starclinic

Open Daily 11:00 - 21:00

เว็บไซต์นี้สำหรับสมาชิกสตาร์คลินิกเท่านั้น

วิธีผิดๆ ที่คิดว่ากำจัดรอยสิวได้วิธีผิดๆ ที่คิดว่ากำจัดรอยสิวได้

  • Wrong methods for acne scar removal

    นอกจากเรื่องสิวอุดตัน วิธีรักษาสิวอักเสบแล้ว อีกปัญหาใหญ่สำหรับสาวสวยแบบเรา ที่อยู่ในช่วงรักษาสิว

     

    ก็คือการรักษารอยสิว แม้จะเห็นว่าสิวอุดตันลดลง แต่รอยแดง รอยดำที่ฝากไว้ให้ดูต่างหน้าก็ทำให้ช้ำใจ

     

    ไม่น้อยเลยล่ะค่ะ ทำให้ต้องงัดทุกวิธีมาใช้เพื่อให้รอยสิวหายไปได้เร็วๆ จะได้มีหน้าใสไร้สิว... ทั้งทำตาม

     

    คนอื่นบ้าง คิดเองบ้าง บางคนกว่าจะเห็นผลผิวหน้าก็พังไปก่อนแล้ว วันนี้ทาง Star Clinic เลยรวบรวมวิธีที่

     

    มักจะเข้าใจว่าเป็นวิธีรักษาสิว และสามารถกำจัดรอยสิวได้ ซึ่งยังไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องซะทีเดียวค่ะ 

     

     

     

    “รอยสิว” เกิดจากการระคายเคืองใต้ชั้นผิว จนทำให้เริ่มเป็นรอยแดง และถ้าปล่อยทิ้งไว้ ไม่ได้รักษาอย่าง

     

    ถูกวิธี ก็จะทำให้เป็นสิวซ้ำตรงที่เดิมได้ และอาจจะกลายเป็นรอยดำที่อยู่กันไปยาวๆ เลยล่ะค่ะ ที่ต้องบอก

     

    ให้รู้ก่อน เพื่อที่เราจะได้เข้าใจง่ายขึ้นว่าทำไมวิธีต่างๆ ที่ทำอยู่มันไม่ได้ผล

     

     

     

    1. สครับผิวบ่อยๆ

     

    การสครับผิวที่บ่อยครั้งจนเกินไปเป็นวิธีที่ทำร้ายผิวโดยตรงเลยนะคะ ซึ่งความเป็นจริงรอยสิวเกิดจากการ

     

    ระคายเคืองใต้ชั้นผิว การสครับนั้นช่วยผลัดเซลล์ผิวออกแค่ด้านบนเท่านั้น นอกจากไม่ช่วยลดการระคาย

     

    เคืองแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดอาการระคายใต้ชั้นผิวอีกด้วย ดังนั้นจึงเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุดนะคะ

     

    หากอยากสครับผิวให้ทำ 1 ครั้งต่อ 2 สัปดาห์เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกก็เพียงพอค่ะ

     

     

     

    2. ทาไวท์เทนนิ่งเยอะๆ แล้วรอยสิวจะหายไป

     

     

    ไวท์เทนนิ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวของเราดูกระจ่างใสขึ้น เพราะมีสารบำรุงที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวตาม

     

    ธรรมชาติ คล้ายกับการสครับผิว ทำให้คิดได้ว่า ถ้าทำให้ผิวดูกระจ่างใส รอยสิวก็จะจางหายไปด้วย ซึ่ง

     

    ความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น อาการระคายเคืองใต้ผิวกับปัญหาความหมองคล้ำมันคนละเรื่องกันค่ะ การ

     

    ใช้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งจะช่วยเรื่องความหมองคล้ำของผิวที่มีปัญหาอยู่เดิมให้ดูดีขึ้นได้ แต่เรื่องรอยแดง

     

    รอยดำจากสิวจะไม่ช่วยนะคะ เผลอๆ อาจจะมีสารบางตัวที่ไปกระตุ้นให้เกิดสิวหรือความระคายเคืองเพิ่ม

     

    ขึ้นด้วยค่ะ

     

     

     

    3. มะขามเปียกแต้มรอยสิว

     

    สมุนไพรก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการดูแลผิวได้ดี แถมนิยมใช้มาตั้งแต่ในสมัยก่อน แต่เราต้องเลือกใช้ให้

     

    ถูกต้องตามคุณสมบัติของเขาด้วยค่ะ ต้องศึกษาค่าความเป็นกรดเป็นด่างดีๆ เดี๋ยวจากประโยชน์จะกลาย

     

    เป็นโทษได้ ยกตัวอย่างคือมะขามเปียก ที่มีกรด AHA อยู่สูง จนถูกขนานนามว่าเป็นไวท์เทนนิ่งสูตร

     

    ธรรมชาติ ทำให้คนมักจะใช้มะขามเปียกในการรักษาสิวและรอยสิว อันนี้ต้องระวังเลยค่ะ เพราะ AHA มีค่า

     

    ความเป็นกรดสูง อาจจะใช้ได้ผลกับคนที่ผิวค่อนข้างแข็งแรงอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นคนผิวแพ้ง่ายอาจมีอาการ

     

    แสบผิว และทำให้หน้าแห้งเป็นขุยได้

     

     

     

    4. ปล่อยไว้ตามธรรมชาติ เดี๋ยวหายเอง

     

    คือไม่ทำอะไรเลย คิดว่าแค่รักษาสิวอุดตัน รักษาสิวอักเสบให้หายก็พอแล้ว เดี๋ยวรอยดำ รอยแดง รอยสิว

     

    ก็จะจางหายไปเอง ปล่อยไป หวังว่าเดินมาส่องกระจกอีกทีก็น่าจะหาย เป็นความคิดที่ทำร้ายผิวหน้าเรา

     

    มากที่สุดเลยนะคะ รอยสิวไม่มาไวไปไวขนาดนั้นแน่นอน และอาจทำให้เกิดสิวขึ้นเรื่อยๆ

     

     

    เรื่องของการรักษาสิว ลดรอยดำ รอยแดง รักษารอยสิว เป็นเรื่องเดียวกันค่ะ โฟกัสให้ตรงจุด แล้วจะจบ

     

    ปัญหาสิวได้อย่างแท้จริง  เลยขอแนะนำ Acne Clear และ Smooth Clear ค่ะ 2 โปรแกรมนี้จะช่วยทำให้

     

    คุณกลับมามีใบหน้าที่สวยเนียนใสไร้สิว และรอยหลุมสิวก็ตื้นขึ้น ใบหน้าคุณจะน่าสัมผัสเพิ่มความมั่นใจ

     

    มากขึ้นแน่นอนค่ะ

     

     

    เพิ่มเพื่อน

     

    ทีมแพทย์สตาร์คลินิก มีประสบการณ์ด้านผิวพรรณและศัลยกรรมความงามมากกว่า 10 ปี

     

    เปิดบริการทุกวัน เวลาทำการ 11.00 - 21.00 น.

    ปรึกษาหรือสอบถามโปรโมชั่น โทร. 088-004-0005

    อ่าน 3689 ครั้ง

ข่าวสารและกิจกรรมสตาร์คลินิก (Star Clinic) | ข่าวสารและกิจกรรมอัพเดท